เพราะเหตุใดจะต้องฆ่าวันทองคำ? พินิจพิจารณา “นางวันทองคำสองใจ” ใช่หรือ แล้วไม่ถูกข้อกล่าวหาอะไร

เพราะอะไรจำเป็นต้องฆ่าวันทองคำ? ความลังเลเลือกไม่ได้ไม่ใช่ข้อผิดพลาดทางอาญา คุณถูกตายเพื่อลดการเผชิญหน้าระหว่างขุนแผน กับพระพันวษา

คำตอบพื้นๆเป็น นางวันทองคำสองใจ เพราะว่าไม่บางทีอาจตกลงใจ หรือเปล่าตกลงใจว่าจะอยู่กับผู้ใดกันแน่ ขุนข้างหรือขุนแผน เมื่อพระพันวษากล่าวให้นางตกลงใจให้เด็ดขาด แม้กระนั้นนี่เป็นเหตุผลที่จริงจริงกระนั้นหรือ?

เค้าโครงเดิมของกลอนเสภา มุ่งไปที่ความข้องเกี่ยวของชายกับหญิงเริ่มที่การประลองกันระหว่างยาจก (ขุนแผน) กับคนมั่งคั่ง (ขุนช้าง) เมื่อเรื่องราวดำเนินไปก็ทวีความสลับซับซ้อนขึ้นเกี่ยวกับหน้าที่หรือบริการที่ชายสามารถให้กับหญิง ขุนแผนตอบสนองอารมณ์ความรัก ความชื่นชอบ มีลูกตกทอด แล้วก็ความระทึกใจในชีวิต แม้กระนั้นไม่บางทีอาจให้ความป้องกัน (เสมือนร่มโพธิ์ร่มไทร) เพราะว่ามักจำเป็นต้องจากไป ยกทัพ ไปป่าหรือไม่ก็ถูกราชอาญาคุมขังในเรือนจำ กับขุนช้าง นางได้ครองเรือน มีทรัพย์สินศฤงคาร และก็ได้รับการป้องกัน แม้กระนั้นอยู่ร่วมกันโดยไม่มีโรแมนซ์และไม่มีลูก

แต่ว่ากลอนเสภาก็มีเรื่องราวด้านอื่นๆด้วย

slotxo

โทษทัณฑ์
นางวันทองคำทำผิดอะไร? ความไม่มั่นใจตกลงใจมิได้ ไม่ใช่ความผิดพลาดทางอาญา โดยชอบด้วยกฎหมายยี่ห้อสามดวง หญิงที่ถูกพบว่ามีชู้ หรือมีสองชาย มีโทษถูกประจานไปตามถนนหนทาง มีมือกลองเดินนำหน้า หญิงเป็นชู้มีป้ายติดที่หน้าผาก ทัดดอกชบา รวมทั้งพวงมาลาบนหัว ข้อบังคับอนุญาตให้สามีฆ่าภรรยาที่คบชู้สู่ชายได้ แต่ว่าจำเป็นต้องฆ่าชายชู้ซะก่อน

ในกลอนเสภา นางวันทองคำกังวลว่าบางทีอาจถูกหมายหน้าว่าเป็นหญิงสองใจ นางกลัวถูกนินทา กลัววงศ์สกุลเสียหายความโด่งดัง แต่ว่านางมิได้กลัวว่าจะถูกลงโทษโดยชอบด้วยกฎหมาย

แบบนั้นแล้ว ข้อบัญญัติโทษมาจากไหน? เนื้อหาเกี่ยวกับข้อบังคับในกลอนเสภาค่อนข้างจะถูก กรรมวิธีศาลเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายตราสามดวง การลงอาญาเป็นไปตามข้อกฎหมาย นักประพันธ์ดูราวกับว่าตั้งใจและก็ยินดีที่แสดงวิชาความรู้ในเรื่องพวกนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่ข้อบัญญัติโทษจะผิดเพี้ยนไปจากหลักเกณฑ์ที่มีอยู่

ขอให้พินิจพิเคราะห์มองกลอนเสภาตอนพระพันวษาตรัสบทกำหนดโทษ

รีบเร็วเหวยพระยายมราช ไปฟันฟาดเสียให้มันเป็นผี

อกเอาขวานผ่าอย่าเมตตา อย่าให้มีเลือดติดดินฉัน

เอาใบกล้วยรองไว้ให้หมากิน ตกดินจะระยำเจ้าแม่กาลีอยู่

(ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 3 ในระหว่างที่ 35 น. 232)

ข้อสำคัญเป็น “อย่าให้มีเลือดติดดินเรา”

นี่เป็นบทกำหนดโทษสำหรับกบถ เจอใน มาตรา 1 ของ พระไอยกาเกลื่อนกลาดระบดศึก โดยสรุป มาตรานี้ระบุว่า คนไหนกันแน่เพียรพยายามยึดพระราชบัลลังก์ หรือมานะทำลายพระราชาด้วยอาวุธ ยาพิษ หรือไม่ยอมรับที่จะส่งเครื่องบรรณาการในฐานะเป็นเจ้าผู้ครองเมือง หรือคนไหนกันที่ยุยงส่งเสริมให้ศัตรูจู่โจมหรือให้ข้อมูลกับศัตรู ถูกทำโทษประหารให้ยึดราชบาตรเป็น 3 สถานที่ (ก) หนึ่งสารเลว (ข) สองเลวทราม หรือ (ค) ตราบจนกระทั่งไม่มีผู้สืบสกุล ให้ประหารให้ได้ 7 วัน ก็เลยให้จบชีวิต เมื่อประหารนั้นอย่าให้เลือดแลอาศภตกลงในแผ่นดิน ให้ใส่แพลอยเสียตามสายน้ำ แผ่นดินดก 240,000 โยชน์ (มาตรา 1 พระไอยกาเกลื่อนกลาดระบดศึก ในกฎหมายตราสามดวง เล่ม 4 น. 124 หนังสือชุดภาษาไทยของครุที่ประชุม พุทธศักราช 2537)

นักเขียนไม่เจอกฎเกณฑ์เกี่ยวกับ อย่าให้มีเลือดตกพื้น นี้ในส่วนอื่นๆของกฎหมายตราสามดวงเลย ถ้าหากกระนั้นผู้ใดกันแน่เป็นกบถ นางวันทองคำ หรือ?

xoslot

ภาพวาดพระพันวษา จากภาพยาซิกาแร็ตชุดขุนช้างขุนแผนที่พิมพ์เป็นแผ่นเล็กๆใส่อยู่ในซองที่มีไว้เพื่อสำหรับใส่บุหรี่แบรนด์ EAGLE ออกวางขายเมื่อ พุทธศักราช 2468
ฉากขึ้นโรงขึ้นศาล
กลอนเสภาขณะนี้อยู่ก่อนหน้าบทกำหนดโทษ ก่อนจะทรงวินิจฉัยลงโทษนางวันทองคำ พระพันวษาทรงแทบลงพระอาญากับอีก 2 คน แล้วก็ข้อบัญญัติโทษในส่วนนี้ก็ออกจะเฉพาะ

ประการที่ 1 นางวันทองคำให้การว่าขุนช้างใช้ความรุนแรงชิงนางเอกเมื่อหลายปีก่อน และก็ขุนช้างอ้างถึงว่าเขาปฏิบัติไปเนื่องจากว่ามีพระบรมราชโองการสั่งมา พระพันวษาทรงพระพิโรธหนัก รวมทั้งทรงส่องแสงพระเสียงว่า

ครั้งนั้นท่านผู้ทรงโลก ฟังจบโกรธขุนช้างเป็นยิ่งนัก

มีพระสีหนาทตะคอกมา อ้ายบ้าถือตัวอ้ายลิงโลน

ตกว่าข้าหาเป็นเจ้าชีวิตไม่ เอ็งถือใจว่าเป็นเจ้าที่เจ้าทางโรงโขน

เป็นไม่มีอาชญาสิทธิ์คิดดึงโดน ท่องเที่ยวทำขโมยดวงใจคึกคะนองจองหองพองขนครัน

เครดิตฟรี

อีวันทองคำข้าให้อ้ายแผนไป อ้ายช้างยโสโอหังหัวใจทำจู่ทาง

ผลักมันขึ้นช้างอ้างถึงเรา ตะโกนข่มขู่อีวันทองคำให้ตกอกตกใจ

ถูกใจตบให้สลบลงกับที่ เฆี่ยนเสียให้ยับไม่นับได้

มะพร้าวห้าวยัดปากให้สาแก่ใจ …

(ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 3 ในระหว่างที่ 35 น. 229,230)

ที่ตรงนี้ เนื้อหาสำคัญเป็น ที่ทรงข่มขู่ว่าจะลงทัณฑ์โดยให้เอา มะพร้าวห้าวยัดปาก ในลักษณะเดียวกันกับบทกำหนดโทษนางวันทองคำ โทษทัณฑ์นี้ปรากฏเพียงแค่ครั้งเดียวในกฎหมายตราสามดวงรวมทั้งอยู่ในแหล่งที่เห็นได้ชัดเป็น มาตรา 1 พระไอยการอาญาหลวง เป็นบทที่ว่าด้วยการ ทำใจใหญ่ทะเยอทะยานให้เกินศักดา เล่าโทษในการมี ถ้อยคำมิควรสนทนา ต่อในหลวงหรือก้าวล่วงถึงอำนาจของท่าน ใช้คำดังในกลอนเสภาเป็น ให้เอามะพร้าวห้าวยัดปากŽ (กฎหมายตราสามดวง เล่ม 4 น. 6) การ ให้ตัดปากหมา ให้ตัดปากประจาน อื่นๆอีกมากมาย เจอในส่วนอื่นๆของกฎหมายตราสามดวง เป็นบทกำหนดโทษสำหรับข้อผิดพลาดอื่นๆดังเช่นว่า รุกราชบาตรกดขี่ไพร่ฟ้า ประมาทหมิ่นพ.ร.บ. เนื้อหาเกี่ยวกับใช้มะพร้าวห้าวยัดปาก ปรากฏครั้งเดียวใน มาตรา 1 ของพระไอยการอาญาหลวงนี้

ประการที่ 2 ขุนช้างอธิบายว่าพระไวยลักพานางวันทองคำมาจากเรือนของตนเอง พระพันวษาทรงพระพิโรธรวมทั้งทรงส่งแสงพระเสียงว่า

เมื่อนั้นท่านผู้ทรงอำนาจวาสนา ฟังเหตุขุนข้องหมองใจเป็นนักหนา

สล็อต xo

อ้ายหมื่นไวยทำใจอหังกา ตกว่าประเทศชาติไม่มีนาย

จะหารือจำทรัพย์ให้มิได้ ก็เลยเอาอย่างความมีน้ำใจเอาง่ายง่าย

หากคว้ากำเนิดสังหารกันตาย อันตรายขี้ข้าเมืองก็เคืองเรา

อัยการศาลโรงก็มีอยู่ ฤาว่าฉันวินิจฉัยให้มิได้

ถูกใจทวนด้วยลวดให้ปวดไป ปรับไหมให้พอๆกับชายชู้

(ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 3 ขณะที่ 35 น. 230)

ที่ตรงนี้บทกำหนดโทษออกจะแปลกสักนิด แม้กระนั้นข้อความสำคัญเป็นพระเจ้าแผ่นดินทรงมีความคิดเห็นว่าพฤติกรรมของพระ ไวยนั้นเป็นการท้าอำนาจของท่านรวมทั้งมีอันตรายกับความมีระเบียบของสังคม

ฉากนี้ แสดงให้มองเห็นความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจของพระราชา แต่ว่าคนใดกันเป็นกบฎ? มีตัวละครสำคัญ 4 ตัว ซึ่งปรากฏหน้าหน้า (นางวันทองคำ ขุนช้าง ขุนแผน พระไวย) แม้กระนั้นขุนแผน เป็นคนเดียวซึ่งพระพันวษามิได้ทรงพระพิโรธ

ส่วนประกอบของโครงเรื่องเดิม
ขอให้ย้อนมาพินิจส่วนประกอบโครงเรื่องเดิมของกลอนเสภาอีกที ในบทความก่อนหน้า คนเขียนได้นำเสนอให้มีความคิดเห็นว่า โครงเรื่องเดิมเป็นรายละเอียดเวลาที่ 1-23, 35-36 สำหรับเรื่องราวของพระไวยนั้น นักเขียนมีความคิดเห็นว่าเป็นการแทรกเพิ่มเติมต่อเติมภาคแปลกประหลาด 1 ซึ่งได้ถูกเพิ่มเข้าไปกึ่งกลางเค้าโครงเดิม ถ้าหากว่าพวกเราแยกเอาเฉพาะเค้าโครงเดิมออกมา จะพบว่ามีส่วนประกอบแบ่งได้ 4 ส่วน

ส่วนที่ 1 บทนำ (เวลาที่ 1-2) ชี้แนะสถานที่กำเนิดของเรื่องแล้วก็ผู้แสดงหลัก

ส่วนที่ 2 รักสามเส้า (ในเวลาที่ 3-15) นำเสนอขุนแผนมีชู้กับนางพิมพ์ สมรส แล้วขุนช้างแก่งแย่งนางเอกวันทองคำไป

ส่วนที่ 3 การขัดกัน (ในระหว่างที่ 16-23) เมื่อขุนแผนเตรียมพร้อมกลยุทธ์ทวงแค้นขุนช้าง รวมทั้ง

ส่วนที่ 4 อวสาน (ขณะที่ 35-36) ฉากไปศาลและก็ฆ่านางวันทองคำ

อารมณ์ของกลอนเสภาแปลงเมื่อเรื่องราวลื่นไหลจากส่วนที่ 2 เป็นส่วนที่ 3 ขุนช้างได้ใช้เส้นที่พระราชสำนักเพื่อช่วยทำให้ตนเองดีกว่าเหนือขุนแผน ผลก็คือขุนแผนไม่ใช่เป็นเพียงแต่คู่แข่งขันกับขุนช้างเพียงอย่างเดียว แต่ว่าแข่งขันกับอำนาจของกษัตริย์ด้วย จากจุดนี้ ขุนแผนเป็นคนจรจัดเสมอเหมือนโรนินในนิทานประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นซามูไรไม่มีนาย

เริ่มเขาตระเตรียมปกป้องตัวเอง หาม้า ตีกระบี่ และก็กุมารทองคำ เหล็กที่ใช้ตีกระบี่มีส่วนผสมเป็นเหล็กจากเหมือง ๒ แห่งที่ใช้เพื่อสร้างพระราชกกุธภัณฑ์ และก็เหล็กจากยอดวังของพระมหาราชวัง ขุนแผนเรียกกระบี่นี้ว่า กระบี่ฟ้ารู้สึกตัว แสดงว่า ฟ้าลั่นก่อนฝนมา แล้วก็เป็นชื่อหนึ่งของอาวุธในบรรดาพระราชกกุธภัณฑ์ที่มอบในพิธีครองราชสมบัติของขุนบรม กษัตริย์ผู้มีอิทธิพลในตำนานไทย-ลาว1 ถัดมาขุนแผนบอกกับลูกชายว่า

อันฟ้ารู้สึกตัวเล่มนี้ดียอดนัก กระบี่อื่นสักหมื่นแสนไม่แม้เลย

ตัวพระแสงสว่างทรงองค์กษัตริย์ ไม่เทียมทัดของพวกเราดอกเจ้าเอ๋ย

(ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 3 ในขณะที่ 27 น. 34)

เมื่อมีอาวุธป้องกันภัยครบถ้วน ขุนแผนแสดงความฮึกเหิมเผยขึ้น “ถึงจะเคลื่อนทัพตามสักสามพัน ลูกจะฟันให้มองเห็นภัสม์ละอองลง” (ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 2 น. 29) เมื่อกุมารทองคำเตือนสติว่า “งดเว้นก่อนผ่อนบิดาอย่าเพ่อฆ่า ไม่กลัวอาญาเจ้าชีวิตฤา” (ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 2 น. 41) ขุนแผนสวนกลับว่า “เอ้ออือเราไม่กลัวแล้วอาญา” (ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 2 เวลาที่ 17 น. 41)

นับตั้งแต่จุดนี้ บทของขุนแผนในกลอนเสภามีการแนะนำตัวโดยมีบทยอเกียรติยศสั้นๆแม้ว่าจะไม่แปลกประหลาดเสมอเหมือนที่ชี้แจงเสนอแนะองค์พระเจ้าแผ่นดินที่ทำเป็นมาตรฐาน บทยอเกียรติยศขุนแผนนี้ฉลองว่า “เรืองฤทธิ์ฤาดีไม่มีสอง” (ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 2 ในขณะที่ 17 น. 27) รวมทั้ง “รุ่งฤทธิ์พริ้มเพราระเหิดระหง” (ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 2 ในเวลาที่ 17 น. 31) 2

ขุนช้างกล่าวหาว่าขุนแผนเป็นกบฎ แต่ว่าตามแบบฉบับขุนช้าง เขาไม่เก่ง ขุนแผนก็เลยชนะความ ขุนเพชรรวมทั้งขุนรามป้ายความผิดว่าขุนแผนเป็นกบฎ ขุนแผนโกรธจนถึงลุแก่โทษ แล้วฆ่าพวกเขาเสีย

ขุนแผนกลายเป็นบุคคลภายนอกข้อบังคับ ร่อนเร่พเนจรไปอยู่ถ้ำโจรของหมื่นหาญ ร่อนเร่ไปหมู่บ้านชาวละว้ารวมทั้งคนดอย เข้าป่าแถบทิวเขาตะที่นาวศรี หนีภัยไปพบพระจังหวัดพิจิตร ซึ่งมีชื่อว่าใจดีมักช่วยทำให้บ้านพักอิงกับบุคคลภายนอกข้อบังคับที่ลำบาก

เมื่อขุนแผนยอมมอบตัว กลับไปอยุธยาเพื่อต่อสู้คดีความ เขาแน่ใจว่าเขาจะรอดตัว เนื่องจากว่าเขามีวิชา

ข้อหนึ่งว่าพวกเราเข้ามาหา ไม่ได้ไปจับมาแต่ว่าป่ากว้าง

โทษทัณฑ์นั้นเล่าจะน้อยลง และจากนั้นก็เขวี้ยงด้วยกำลังวิทยา

(ฉบับวัดเกาะ เล่มที่ 18 น. 672)

ถ้าหากความรู้ความเข้าใจของนักเขียนเกี่ยวกับองค์ประกอบโครงเรื่องเดิมของกลอนเสภาถูก ภายหลังจากขุนแผนมอบตัว เรื่องราวก็คงจะดำเนินไปสู่บทขึ้นโรงขึ้นศาล แล้วก็ฆ่านางวันทองคำ

จุดสำคัญของเรื่อง
ในเค้าโครงเดิมส่วนที่ 3 ขุนแผนกลายเป็นผู้กุมอำนาจพิเศษยิ่ง เขาแข่งขันกับอำนาจเมือง รวมทั้งโดยนัยแข่งขันกับอำนาจกษัตริย์ ดูท่าท่านจะรู้สึกได้ถึงสภาพการณ์นี้

อ้ายแสนกล ขุนแผน ถือตนว่ามีฤทธิ์ ตกมันมีความรู้สึกว่าข้าสู้ไม่ได้

……………………………. มันก็ดีเป็นไรไม่บินเหาะ

…………………………..

(ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 2 ในระหว่างที่ 22 น. 125)

เจ้าวัดอาจจะวัดแค ซึ่งสอนวิชาให้อีกทั้งขุนแผนรวมทั้งขุนไกรบิดาของเขา มั่นใจว่าขุนแผนสามารถที่จะท้าอำนาจพระเจ้าอยู่หัวได้ เจ้าวัดขัดเคืองใจมากมายที่ขุนไกรถูกประหารตามที่พูดว่า

……………………….. ยังแค้นที่มันม้วยไม่ต่อมือ

โดยจะสิ้นความนึกคิดวิทยา จะซานมาหาข้ามิได้ฤา

หากคนใดกล้าตามมาไม่มีครือ จะฟันเสียให้นับว่าเป็นแทงลาว

(ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 1 เวลาที่ 5 น. 98)

ยิ่งกว่านั้น เจ้าอาวาสคงจะติเตียนที่ขุนแผนยอมถูกจำเรือนจำนานมาก เมื่อบอกว่า

ถ้าแม้นเขาแล่นมาตามจับ จะผกผ้าพยนต์รับให้ต่อสู้

ช่างอยู่เฉยเสียได้อ้ายผิดครู วิชาความรู้ท่วมหัวยังกลัวคน

(ฉบับวัดเกาะ เล่มที่ 23 น. 898)

ฉากขึ้นโรงขึ้นศาลโดยมากในขณะที่ 35 มีประเด็นสำคัญเป็นอำนาจของพระเจ้าแผ่นดินถูกท้าหรือเปล่า? เริ่มต้นพระพันวษาทรงยัดเยียดข้อหาว่าขุนช้างท้าท่าน ถัดมาทรงกล่าวหาพระไวยอย่างเดียวกัน แล้วก็คนถัดไปที่จะถูกใส่ความนี้ก็น่าจะเป็นผู้ที่อยู่หน้าใบหน้าผู้ที่ 3 เป็นขุนแผน

ส่วนประกอบของเค้าโครงเดิม ฉากนี้ก็คงจะเริ่มจากเรื่องราวของขุนแผนในฐานะเป็นบุคคลภายนอกข้อบังคับ หลักสำคัญที่ว่า ขุนแผนมีความรู้ที่จะท้า ยโสโอหังขัดอำนาจของท่าน หรือเป็นปัญหาต่อพระราชาหรือเปล่า ปรากฏอยู่แต่ว่าในจุดวิกฤตนี้ พระพันวษามิได้ทรงประจันหน้ากับขุนแผนกลับทรงหันไปนางวันทองคำ

มันเกิดเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะหญิง ก็เลยหึงชิงยุ่งยิ่งอยู่

(ฉบับหอพักพระสมุดวชิรญาณ เล่ม 3 ขณะที่ 35 น. 231)

จากจุดหักเหนี้ ความตายของนางวันทองคำ ก็เลยเป็นการสังเวย เพื่อหลบหลีกการเผชิญหน้าระหว่างขุนแผนกับพระพันวษา ในด้านของเค้าเรื่อง ฆ่านางวันทองคำ ก็เลยเป็นบทอวสานของกลอนเสภาที่โศกสุดๆแล้วก็จับอกจับใจมากมาย ในทางของรายละเอียดกล่าวถึงอำนาจรวมทั้งผู้กระทำบถ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของเรื่องโดยตลอด บทอวสานนี้ตบท้ายข้อความสำคัญไว้ โดยไม่มีคำตอบแจ่มแจ้ง เนื่องจากในความเป็นจริงแล้ว ตอบมิได้

ฆ่านางวันทองคำ ภาพวาดโดย คุณครูเฉลิม นาคีรักษา ประกอบหนังสือเล่าขุนช้างขุนแผน สำนวนทองคจำพวก รวมทั้ง นายหนังสือเรียนในเมืองใต้ พิมพ์ทีแรกเมื่

Share This Post

Zero WordPress Theme by WPExplorer Powered by WordPress